เตรียมหักเงินเดือน 3 พนักงานเทศบาล ชดใช้หนี้ ลุงเจ้าหนี้ ขณะที่พี่สาวเปิดใจ ไม่รู้จักคนยืมเป็นการส่วนตัว พร้อมขอบคุณนายกฯ ที่ช่วยเป็นคนกลาง
จากกรณี หนุ่มใหญ่วัย 62 ปี ก่อเหตุสลด ผูกคอเสียชีวิต บริเวณหน้าทางเข้าเทศบาลตำบลลำลูกกา จ.ปทุมธานี พร้อมทิ้งจดหมายตัดพ้อลูกหนี้ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
วันที่ 21 ธ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องทำงานนายกเทศมนตรีตำบลลำลูกกา ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี นายกิติเดช ลานทอง นายกเทศมนตรีตำบลลำลูกกาพร้อมด้วย นางสมบัติ เอมเสริม พี่สาวของนายเจริญ เอมเสริม อายุ 62 ปี และ พ.ต.ท.อิทธิกร สง่ากร สารวัตรสืบสวน แถลงชี้แจงกรณีนายเจริญใช้เชือกไนร่อนผูกคอตัวเองเสียชีวิตอยู่ที่ต้นไม้บริเวณทางเข้าเทศบาลตำบลลำลูกกา
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบมีเอกสารเป็นจดหมายบรรยายถึงการทวงหนี้จากลูกหนี้ แล้วไม่ยอดจ่ายให้ผู้ตาย หลังลูกหนี้เข้ารับราชการที่เทศบาลฯ แต่กลับกินหรูอยู่สบาย แต่หนี้ไม่จ่าย คงเกิดความน้อยใจเลยตัดสินใจผูกคอดับ เพื่อประชดชีวิต โดยมีจดหมายเขียนบรรยายข้อความถึงลูกหนี้ทั้ง 3 คน และยอดเงิน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเวลาประมาณ 20.30 น.ของวันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา
โดยนายกิติเดช กล่าวว่า นายเจริญนั้นเป็นพนักงานของเทศบาลตําบลลำลูกกา แต่ได้เกษียณฯมา 5-6 ปีแล้ว ตั้งแต่ตนยังไม่เป็นนายกฯ เลย จนกระทั่งลุงมาผูกคอ และลุงได้มีจดหมายมาให้ตนช่วยตามทวงนี้ให้ด้วย ตนจึงได้เรียกประชุม โดยเรียกผู้ที่มีชื่อในหนังสือดังกล่าวที่มีการยืมเงินนายเจริญมาทำการสอบถามว่า ยืมจริงไหมตัวเลขตรงกับในหนังสือหรือไม่ โดยมีปลัดเทศบาลและนิติกรมาทำการทำบันทึก โดยตนขอยืนยันว่านายเจริญ ไม่ได้มีอาชีพปล่อยเงินกู้แต่อย่างใด
บุคคลแรกเป็นชายที่บอกว่ายืม 750,000 บาทนั้น เขาแจ้งว่าไม่จริง ทางตนก็ได้แจ้งว่าต้องบอกความจริงนะ ไม่งั้นจะติดไปจนวันตาย เขาก็ยืนยันว่าไม่จริง โดยเขาแจ้งว่ายืมผู้เสียชีวิตมา 34,000 บาทยังไม่ใช้เลย ส่วนคนที่ 2 เป็นหญิงนั้น เขาแจ้งว่ายืมมา 40,000 บาท ใช้เงินสดไปแล้ว 30,000 บาท เหลืออีก 10,000 บาท จะใช้ให้ ส่วนคนที่ 3 เป็นหญิงบอกว่ายืม 30,000 บาท ทางตนได้ทำบันทึกว่าให้ทำการหักเงินเดือนทั้ง 3 คน
โดยคนแรกจะผ่อนเดือนละ 25,000บาท ซึ่งตัวเลขไม่ตรงกับความเป็นจริง จากที่มีการสอบสวนคนที่ 2 หักเดือนละ 2,000 บาท ส่วนคนที่ 3 หัก เดือนละ 2,000 บาทในขณะที่คนที่ 4 นั้น เขาไม่ได้ทำงานในเทศบาล เราไม่สามารถไปก้าวก่ายเขาได้ แต่เขาไปคุยตกลงกันกับทางญาติจนเป็นที่น่าพอใจแล้ว
ในส่วนที่ผู้เสียชีวิตนั้น มีการยืมเงินคนที่เทศบาลไป 80,000 บาท ซึ่งทางนายเจริญนั้นได้ใช้มาแล้ว 30,000 บาท ยังเหลืออีก 50,000 บาท ซึ่งผู้เสียชีวิตนั้นมีเงินบำนาญอยู่ 250,000 บาท ก็จะได้มีการหักกันไปตามที่ผู้เสียชีวิตนั้นร้องขอมาทุกอย่าง โดยเงินทั้งหมดที่มีการยืมเงินนายเจริญนั้น เป็นการยืมโดยมิตรภาพ และเสน่หาส่วนตัว โดยไม่มีเอกสารการกู้ยืมเงิน ซึ่งตนก็ไม่ทราบ มาทราบอีกทีก็ตอนมาเห็นจดหมายโดยนายเจริญนั้นไม่เคยโทรมาหาตน หรือแม้กระทั่งมาทวงเงิน ที่เทศบาลก็ไม่เคยมา
ด้านนางสมบัติ เอมเสริม กล่าวว่า น้องชายนั้นเป็นคนไม่ค่อยพูด โดยก่อนเกิดเหตุตนก็พยายามสอบถามเขา ซึ่งเขาก็ไม่พูด จึงได้เค้นถามเรื่องค่าใช้จ่าย จนเขาบอกว่ามีคนยืมเงิน ตนก็ถามว่าใคร เขาก็ไม่บอกเขาบอก เพียงว่าเป็นผู้ชายเท่านั้น ซึ่งพอมารู้ว่าน้องชายได้มายืมคนในเทศบาล ก็ได้ดุเขาไปว่านำเงินไปให้เขายืมแล้วเขาไม่ใช้หนี้ แต่ลำบากไปยืมคนมาใช้ ซึ่งเราก็สงสารเขาจึงได้บอกเขาไป
โดยครอบครัวเรามีแต่คนแก่ พอมีการทำอาหารก็จะกินกัน แต่เราจะใช้เงินกันเองในแต่ละคน จะไม่ยุ่งกัน โดยอุปนิสัยของนายเจริญนั้นจะเป็นคนเงียบ แต่พอไปทำงานจะคุยสนุกสนานกับเพื่อนร่วมงาน แต่พอกลับบ้านจะเป็นคนเงียบ โดยผู้ที่ยืมเงินน้องไปนั้น ตนไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวเลย เพิ่งจะมาเห็นตอนที่เขาเข้ามาคุยเท่านั้น ซึ่งตอนเกิดเหตุตนนอนอยู่ ไม่รู้เรื่อง มีคนที่เทศบาลมาบอกที่บ้านว่าให้ตนทำใจดีๆ นะพอรู้ข่าวตนก็รีบเดินทางไปที่ สภ.ลำลูกกาทันที
ทั้งนี้ตนจะไปเรียกร้องอะไรต่อผู้ยืมนั้น ตนไม่มีหลักฐาน อีกทั้งนายกิตติเดช มาช่วยไกล่เกลี่ย และเป็นกลางในการเจรจา ซึ่งตนก็ไม่ติดใจในเรื่องนี้ เพราะว่ามันเป็นกรรมของเขา และถึงวาระของเขาแล้ว จะได้สบายใจกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งตอนนี้เราไม่รู้จะทำอะไรแล้ว เราเครียดไปหมด หลังเป็นข่าวเราไม่อยากจะให้ข่าวแล้ว เพราะทางนั้นเขาคิดว่าเราเป็นคนสร้างข่าว ซึ่งเราไม่ได้ทำเลย ขนาดโซเชียลเรายังเล่นไม่เป็นเลย ซึ่งในตอนนี้ที่เจอคนยืมทั้งหมดเขาก็ไม่ได้ขอโทษ เพราะว่านายกฯเป็นคนเคลียร์ให้ทั้งหมด ซึ่งเราโชคดีที่ได้นายกฯมาช่วยเจรจาทั้งหมด หากน้องเราไม่ได้นายกฯคนนี้เราก็ไม่รู้ว่าเราจะได้ตรงนี้จากใคร และเรื่องก็จบลงด้วยดี
ด้าน พ.ต.ท.อิทธิกร สง่ากร สารวัตรสืบสวน กล่าวว่า ขณะนี้ทางนายกเทศมนตรีตำบลลำลูกกาได้ให้ข้อมูลไปหมดแล้ว ส่วนข้อมูลเชิงลึกนั้นประเด็นไหนที่ญาติคิดใจทางตำรวจจะได้ไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง แต่เท่าที่ฟังแล้วเป็นประเด็นเรื่องส่วนตัว แต่ข้อมูลเชิงลึกทางเราจะลงพื้นที่ตรวจสอบอีกที ส่วนของคนที่มีรายชื่อ และกล่าวอ้าวที่เป็นพยานแวดล้อมในจดหมายเราจะตรวจสอบอีกที
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ขณะที่ภาพวงจรปิดได้จับภาพของนายเจริญ ขณะนำรถจักรยานเข้ามาในเทศบาลตําบลลำลูกกาในช่วงเวลา 02.39 น. ของวันที่ 19 ธ.ค. จนกระทั่งนายเจริญนั้นวนรถกลับมาผูกคอที่ต้นไม้ในเวลา 02.53 น. และใช้เวลาผูกคอนานกว่า 5 นาที